การทำงานและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันมักจะนำพาเราสู่สภาวะความเครียด “อาการท้องผูก” ก็เป็นหนึ่งในผลกระทบที่พบได้บ่อย และส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เคยได้ยินไหมคะว่า ลำไส้เปรียบเสมือนสมองที่สองของมนุษย์ ดังนั้นการดูแลลำไส้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยการรักษาท้องผูกไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเท่านั้น ยังมีการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร ที่สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ จะมีอาหารอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
- ผักใบเขียว
กลุ่มอาหารที่มีกากใยมากที่สุด ช่วยในการลำเลียงอาหารมนระบบการย่อย ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ เพิ่มมวลของอุจจาระ แถมยังมีวิตามินที่หลากหลายประกอบอยู่ด้วย ควรทานให้ได้ 3-5 ทัพพีต่อวัน เช่น บรอกโคลี่, ผักคะน้า, ผักกาดขาว, ผักบุ้ง , อาร์ติโชค เป็นต้น
- ผลไม้
ผลไม้เป็นแหล่งของใยอาหารและน้ำที่สำคัญ ช่วยในการทำงานของลำไส้ อย่าง แอปเปิ้ล ที่สามารถแก้ท้องผูกได้อย่างดี มีกากใยอาหารสูง มีน้ำในปริมาณมากช่วยในการย่อยอาหาร หรือ จะเป็นมะละกอ ที่มีฤทธิ์เป็นยานะบายอ่อนๆ มีวิตามินเอสูง ไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ แนะนำให้เลือกผลไม้ที่รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล แก้วมังกร ส้ม ลูกพรุน สัปปะรด เป็นต้น
- อาหารที่มีกากใยสูง
- พืชตะกูลถั่ว เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเลือง ถั่วเขียว ถั่วเลนทิล อัลมอนด์ ถั่วลูกไก่
- ธัญพืชไม่ขัดสี เต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวโอ๊ต เมล็ดเจีย ควีนัส
เป็นแหล่งอาหารที่มีกากใยสูง ช่วยระบบการย่อยอาหารได้ดีมากๆ และช่วยให้เราอิ่มนาน เป็นแหล่งรวมของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลยที่เดียวค่ะ
- อาหารที่มีโพรไบโอติก (Probiotic)
โพรไบโอติกจุลินทรีย์ชนิดดี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะลำไส้ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานเป็นปกติ ทำให้ลำไส้เราแข็งแรง แถมยังสามารถช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการโรคกระเพาะ-กรดไหลย้อน ส่งผลดีไปถึง ผิวพรรณได้อีกด้วย แหล่งอาหารที่ทีโพรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต, นมเปรี้ยว, กิมจิ, ผักดอง,คอมบูชา,นัตโตะ,แทมเป้ เป็นต้น
วิธีดูแลลำไส้ให้ห่างไกลอาการท้องผูก
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวและทำงานได้ดี ส่งผลดีต่อการลำเลียงของเสียในระบบย่อยอาหาร ให้ทำงานได้เป็นปกติ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
วิธีง่ายๆที่หลายคนมองข้าม และทำให้เกิดอาการท้องผูก การดื่มน้ำจะช่วยให้กระบวนการย่อยทำงานได้ดี ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อไม่ให้อุจจาระแข็ง ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
- ขับถ่ายให้เป็นเวลา
หรือทุกครั้งที่อยากถ่าย หากเราขับถ่ายเป็นเวลาจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับถ่ายดีขึ้น และไม่ควรกลั้นอุจจาระหรือรีบเบ่งในเวลาขับถ่าย อาจทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารได้
- ลดการทานอาหารที่ย่อยยาก
เช่น เนื้อสัตว์ นมวัว อาหารที่มีแป้งและไขมันสูง เนื่องจาก ย่อยยาก ทำให้ลำไส้ทำงานหนัก ต้องใช้เวลาในการย่อยนานกว่าปกติ อาจทำให้เรารู้สึกอึดอัดท้อง และอาจจะเกิดอาการท้องผูกได้นั้นเองค่ะ
การปรับเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อลำไส้เป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษาปัญหาท้องผูก อาหารที่มีกากใยสูง, มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก, ดื่มน้ำให้เพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยคุณลดปัญหาท้องผูกได้อย่างดีมากๆ โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาเลยล่ะค่ะ
และหากใครที่ไม่ชอบทานผัก กลิ่นรสชาติของผักที่เหม็นเขียว แอดมินมีทางออกกับตัวนี้เลย Nuzest Greens Plus วิตามินรวมและสารอาหารเข้มข้น สกัดจากผักผลไม้และ Adaptogen ยังมีโพรไบโอติก 2 สายพันธุ์ มากถึง6 พันล้าน CFU และยังมีพรีไบโอติก 3 ชนิดอีกด้วย แค่ชงดื่มง่ายๆ ก็ช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่ขาดหายไป เป็นตัวช่วยให้ลำไส้ทำงานได้อย่างดี
หรือใครที่อยากจะหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ นมวัว แล้วกลัวร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ แอดขอแนะนำ Nuzest Pea Protein โปรตีนพืชลีนๆ จากธรรมชาติ 100% สกัดจากถั่วลันเตายุโรปสีทอง ย่อยง่าย มีกากใยอาหารสูง เป็นทางเลือกที่ดีให้ผู้ที่มีอาการท้องผูก และเป็นโรคลำไส้แปรปรวนด้วยค่ะ
สั่งซื้อได้ที่ Nuzest Shop
