สารอาหารหลายชนิดมีความเกี่ยวข้องมาอย่างยาวนานกับผลลัพธุ์ของสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงแง่มุมที่เป็นไปได้ทั้งหมดตั้งแต่ความงามไปจนถึงความสมบูรณ์และความชรา ที่น่าสนใจคือประโยชน์ที่ได้รับจากทั้งสารอาหาร (จากอาหาร) และจากที่ทาเฉพาะที่ เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือการทรีตเมนต์ผิว จากการค้นคว้าวิจัยพบว่าชั้นหนังแท้ (Dermis) สารอาหารเป็นสิ่งจำเป็นมาก ขณะที่ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) มีการตอบสนองต่อการรักษาเฉพาะที่ได้ดีกว่า
นักโภชนาการ Mr. Amy Butler ได้กล่าวถึงสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพผิว ดังนี้
Vitamin A
วิตามิน A และอนุพันธ์ของมัน รวมถึงเรตินอลที่เรียกว่า เรตินอยด์ มักพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ในผิวชั้นหนังแท้และหนังกำพร้ามีตัวรับเรตินอยด์ หมายความว่าวิตามิน A คือสารอาหารที่ดีเยี่ยมสำหรับในการใช้ในอาหารและโภชนาการผิวเฉพาะที่ เรตินอยด์เฉพาะที่แสดงให้เห็นทางการแพทย์ว่าสามารถปรับปรุงผิวที่แก่ก่อนวัยโดยการเพิ่มความเรียบเนียนและลดเลือนริ้วรอยจางๆ รวมถึงรอยดำอีกด้วย
Vitamin C
วิตามิน C เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการสร้างคอลลาเจนสามารถพบได้ในชั้นหนังแท้และหนังกำพร้า ด้วยอายุที่มากขึ้น การได้รับแสง UV และมลภาวะต่างๆ เช่นการสูบบุหรี่ อาจก่อให้เกิดการลดลงของวิตามิน C ในชั้นบนของผิว วิตามิน C มีสารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยป้องกันผิวจากการทำร้ายของแสง UV ได้
Vitamin D
วิตามิน D ถูกสร้างขึ้นในผิวหนังจากการสัมผัสกับแสงแดด หน้าที่หลักคือการควบคุมการผลิตเซลล์ผิว ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยในการบำรุงรักษาเกราะป้องกันผิวหนังและการรักษาแผลตามปกติ
Vitamin E
ที่จริงแล้ววิตามิน E มีโมเลกุลที่ต่างกันอยู่ 2 ชนิด คือ โทโคฟีรอล (Tocopherols) และ โทโคไตรอีนอล (Tocotrienols) ทั้งสองชนิดพบได้ในอาหาร เช่นถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช วิตามิน E ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งหมายความว่าวิตามิน E สามารถปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากรังสี UV ได้อีกด้วย
Zinc and Selenium
แร่ธาตุมีมากมายและหลากหลายแต่สองชนิดที่ได้ทำการศึกษาสำหรับสุขภาพผิวมากที่สุดคือสังกะสีและซีลีเนียม ทั้งสังกะสีและซีลีเนียมปกป้องผิวจากการทำลายของรังสี UV สังกะสีทำงานเฉพาะที่ในขณะที่ซีลีเนียมมีประสิทธิภาพดีทั้งเฉพาะที่และในอาหาร
Polyunsaturated fats
ไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs) กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ทั้งอาหารและ PUFAs เฉพาะที่สามารถเพิ่มระดับของไขมันในผิวหนัง PUFAs ที่ใช้เฉพาะที่สามารถไหลเวียนไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายและอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการจัดหาการสนับสนุนสุขภาพผิวได้
Flavonoids
ฟลาโวนอยด์คือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดที่สามารถพบได้ในพืช ฟลาโวนอยด์ในอาหารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากการย่อยอาหาร ดังนั้นฟลาโวนอยด์ในหารและฟลาโวนอยด์เฉพาะที่อาจเกิดผลที่แตกต่างกันต่อผิว อาหารจำพวก ผลไม้ ผัก พืชตระกูลถั่วและชาคือแหล่งของฟลาโวนอยด์ที่ดีที่สุด
Peptides
เปปไทด์ไม่สามารถพบได้ในอาหารแต่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้และสามารถนำมาใช้เฉพาะที่ หน้าที่ของเปปไทด์มีมากมายหลายชนิด ได้แก่การผลิตเมลานิน การบอกถึงผลในการป้องกันความเสียหายจากแสงแดด และการผลิตคอลลาเจนที่บ่งชี้ถึงศักยภาพในการป้องกันหรือการบำบัดรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยของผิว
Probiotics
ตามที่ได้กล่าวไว้ในบทความ “Skin Deep: The Causes of Common Skin Concerns” ลำไส้และผิวหนังมีการเชื่อมโยงกันโดยแท้จริงผ่านแกนลำไส้ – ผิวหนัง โดยมีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและ Dysbiosis (ความไม่สมดุลของแบคทีเรียที่พบในลำไส้) ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาผิว ทั้งการเปลี่ยนแปลงอาหารและการเสริมโปรไบโอติกส์สามารถเปลี่ยนแปลงแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้เกิดความเป็นไปในการจัดการแกนลำไส้-ผิวหนังเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษา
What about water?
การเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดี มอยส์เจอไรเซอร์และเซรั่มสามารถใช้เฉพาะที่เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น แล้วน้ำที่เราดื่มล่ะ? น่าแปลกที่มีการศึกษาเรื่องนี้น้อยมาก จากการศึกษาพบว่าการดื่มน้ำมากขึ้นจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวที่ลึกลงไป แต่ก็ยังไม่ทราบได้ว่าจะหมายถึงการดื่มน้ำมากขึ้นสามารถลดความแห้งกร้านจากผิวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ ของการได้รับน้ำที่เพียงพอ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ต้องพยายามโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผิวหนัง
What about supplements?
อาหารเสริมที่รวมเอาส่วนผสมหลากหลายชนิด เช่น คอลลาเจน, วิตามิน C, วิตามิน E, ไบโอติน, สังกะสี, สารสกัดจากองุ่นและมะเขือเทศ รวมถึงสารอาหารจากทะเล เช่นสาหร่ายทะเล ก็สามารถชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่มีต่อความชุ่มชื้นของผิว ริ้วรอยและมาตรการอื่นๆ ของผิว นอกจากนี้สารเคมีจากผัก ผลไม้และเบอร์รี่ที่มีสีเข้มและสีสดใสมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทในการลดความเสื่อมของเซลล์ ดังนั้นจึงช่วยปรับปรุงริ้วรอยของวัยที่สามารถเห็นได้ของผิว
การเติมเต็มอาหารของคุณด้วย Nuzest Daily Boost คือสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในการบริโภควันละ 1 ครั้งด้วยส่วนผสมที่สำคัญหลากหลายเพื่อสุขภาพผิวทีดีขึ้นอย่างยั่งยืน