ฟังเพลงยังฟังได้ ‘ร่างกาย’ ของเราก็ต้องฟังเขาบ้าง เวลาที่เราเหนื่อย เพลียสุด ๆ ร่างกายเขาพยายามจะบอกเราค่ะว่า ไม่ไหวแล้วนะ! ให้พักผ่อนบ้างนะ ในเคสนี้ เราสามารถสรรหาวิธีต่าง ๆ มาชาร์จพลังตัวเองได้
ยกเว้นเคสที่: อ่อนเพลียประจำ เหนื่อยง่ายบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณบอกอาการของโรคไทรอยด์ โรคซึมเศร้า หนูดีแนะนำให้พบแพทย์นะคะ
เอาล่ะค่ะ…ถ้าเราไม่ได้เสี่ยงเป็นโรค แต่เพลียและง่วงนอนบ่อย ๆ ในตอนบ่าย

▶️ สาเหตุมักมาจากพฤติกรรมเหล่านี้ค่ะ
1) เมื่อคืนนอนไม่พอ คือ นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงหรือนอนหลังเที่ยงคืน ไม่มียาชูกำลังไหนชาร์จพลังจากการนอนไม่พอได้โดยไร้ผลข้างเคียง
คำแนะนำที่ดีที่สุด คือ ต้องลองปรับไลฟ์สไตล์ในการนอนค่ะ
2) กินอาหารเที่ยงเยอะเกินไป ทำให้ร่างกายต้องเอาพลังงานไปย่อยอาหารซะเยอะ จึงส่งผลให้พลังงานโดยรวมที่เราจะนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นลดน้อยถอยลงค่ะ
และสำหรับวิธีที่หนูดีใช้ชาร์จพลังยามบ่ายแบบไม่ง้อกาแฟ มี 5 วิธีดังนี้ค่ะ…
1) กินผักหรือผลไม้สด
บางบทความของต่างชาติที่หนูดีเคยอ่าน เขาแนะนำค่ะว่า
เธอไม่ต้องกินกาแฟหรอก กินแครอทไป 1 หัวดีกว่า
ทำไมถึงแนะนำแบบนี้ ?
เพราะแม้ในผัก – ผลไม้หลาย ๆ ชนิดแม้จะไม่มีกาเฟอีนเลย แต่เขามีน้ำตาลจากธรรมชาติ มีสารอาหาร และมีวิตามินที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายเยอะมาก
ดังนั้น บางคนพอได้กินบักแตงโมเย็น ๆ กินแครอทฉ่ำ ๆ
ก็เฟรชขึ้นมาได้ไม่ต้องอ้อนวอนกาแฟเลยค่ะ
2) ดื่มน้ำเปล่า
บางคนสรรหาเครื่องดื่มชาร์จพลังทั้งวัน แต่ละเลยเครื่องดื่มพื้นฐานอย่าง “น้ำเปล่า”
และไม่เคยดื่มมันให้เพียงพอเลย จนสมองเกิดภาวะ ขาดน้ำ แค่นี้ก็ทำให้เหนื่อย ง่วง เพลียได้แล้วค่ะ
หนูดีอยากให้ลุกไปหยิบน้ำเปล่ามาดื่ม นอกจากจะเพิ่มการเคลื่อนไหวให้หายง่วงแล้ว
การที่เราเพลียเพราะสมองขาดน้ำ เราก็ต้อง Re-Hydrate นำความชุ่มชื้นกลับเข้าไปด้วยการดื่มน้ำเปล่าค่ะ
3) ลุกเดินไปเดินมา
ถ้าเรานั่งนาน ๆ ไปเรื่อย ๆ สมองเขาจะตีความว่า “เรากำลังจะหลับค่ะ”
ดังนั้น ถ้าเริ่มหนังตาหนัก ๆ แล้ว ให้ลุกเดินไปนั่นมานี่ บางทีเราหยิบแก้วน้ำแล้วเดินวนแถว ๆ ที่ทำงานบ้าง เดินไปทิ้งขยะบ้าง ลุกไปล้างมือบ้าง
การขยับตัวไปมา จะทำให้เราตื่นตัวกว่าดื่มกาแฟด้วยซ้ำ
แถมใจไม่สั่นด้วยค่ะ
4) นอนกลางวันไม่เกิน 20 นาที
หนูดีเคยลองแล้วค่ะ วันนั้นหนูดีปวดหัวมากกกก อากาศก็ร้อนมาก ประกอบกับหลายสาเหตุที่ทำให้เราเพลียสุด ๆ
พอได้นอนกลางวันไปไม่เกิน 20 นาทีพร้อมกับตั้งนาฬิกาปลุกไว้
อาการปวดหัวที่เป็นก็หายเลยค่ะ !
แถมตื่นมาแบบสดชื่น ๆ ด้วย
การที่เรารู้สึกง่วงเหนื่อยเพลียมาก ๆ
อาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายขอร้องให้เราพักแต่เราไม่ยอมหยุดเอง
ดังนั้น ต่อให้ชีวิตประจำวันจะยุ่งแค่ไหน เราต้องอย่าลืมฟังสิ่งที่ร่างกายบอกเราบ้างนะคะ
5) ทำ Micro Work-out

หมายถึง การออกกำลังกายหรือขยับร่างกายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่ไม่ต้องทำนานถึงชั่วโมงแต่แค่ไม่เกิน 5 นาที ก็สามารถชาร์จพลังกลับมาได้
เช่น การทำท่าโยคะเพื่อยืดกล้ามเนื้อระหว่างวัน การขยับร่างกายบิดไปบิดมา ทำท่าบริหารแก้เมื่อยสำหรับมนุษย์ออฟฟิศ
ก็ช่วยฟื้นพลังได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
(ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ดูคลิปที่ครูเฟย์ลี่สอนได้จากแฟนเพจและช่องยูทูป Nuzest Thailand เลยค่ะ)
เทคนิคที่กล่าวมานี้ หนูดีใช้มาตลอดได้ผลดีมากกกค่ะ และอย่าลืมว่า นี่เป็นแค่ตัวช่วย Boost นะคะ ปัจจัยหลัก คือ เราต้องกลับไปดูตัวเองว่า ดูแลสุขภาพในตลอดทั้งวันดีไหม ? ระหว่างกลางคืนเรานอนเพียงพอหรือเปล่า ?
เมื่อดูแล สุขภาพพื้นฐาน ให้ดี
ภาพรวมของวันนั้น เราก็จะมีพลังดี ๆ ทำงานและพัฒนาตัวเองไปตลอดทั้งวันค่ะ.
หนูดี วนิษา…เรื่อง
นุ่นนิ่น ภัทราพร…เขียน